14 July, 2010

ประโยชน์ของโยคะ


ประโยชน์ของโยคะ
ประโยชน์ของการฝึกโยคะอย่างสม่ำเสมอนับว่ามีอยู่หลายอย่างด้วยกันคือ ช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงกระฉับ-กระเฉง เลือดหมุนเวียนดี การย่อยอาหาร การขับถ่ายดี สมองปลอดโปร่งแจ่มใส เป็นต้น

บุคลิกภาพที่ดีของหลายๆ คนเป็นผลมาจากการออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ สำหรับคนที่ไม่สะดวกในการออกกำลังกายกลางแจ้งหรือนานๆ ครั้งจึงจะได้ออกกำลังกายจนได้เหงื่อท่วมตัว การทดแทน
ด้วยการฝึกเล่นโยคะอย่างง่ายก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถทำให้ร่างกายได้ผ่อนคลายความตึงเครียด แถมยังสามารถช่วยลดและบรรเทาจากโรคต่างๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ประโยชน์ที่คุณจะได้รับก็ คือ

* ทำให้อวัยวะส่วนท้องทำงานได้ดี
* ทำให้ปอดและหัวใจแข็งแรง
* ข้อต่อในส่วนต่างๆ แข็งแรง
* ขจัดอากาพวดศีรษะ
* อารมณ์ดี จิตใจสงบ ความจำและสมาธิดีขึ้น
* ทำให้สมรรถภาพทางเพศดีขึ้น
* โรคเส้นเลือดขอดจะหมดไป
* ทำให้นอนหลับสบาย ไม่คิดฟุุ้งซ่าน
* รักษาอากาพวดตามข้อและปวดหลัง
* ชะลอความแก่
* กระดูกสันหลังแข็งแรง ยืดหยุ่นได้ดีขึ้น
* ป้องกันการเกิดโรคริดสีดวงทวาร
* ป้องกันและบรรเทาอาการของโรคหอบหืด และโรคภูมิแพ้
* ผิวพรรณเปล่งปลั่ง

โยคในสมัยโบราณ เริ่มขึ้นจากความเข้าใจในความเป็นอยู่ของตนเอง การค้นพบวิธีบริหารร่างกายเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ วิธีการใดก็ตามที่ทำให้ร่างกายได้รับความสบายปลอดโปร่ง หายจากการเจ็บป่วยเมื่อยล้า วิธีการนั้นจะถูกบันทึกสะสมขึ้นเรื่อยๆเมื่อวัฒนธรรมต่างๆ เปลี่ยนไป โยคะในแต่ละแห่งจึงมีความแตกต่างกันไปบ้าง แต่ก็ยังคงรูปแบบและวิธีการที่เป็นไปในทิศทาง
เดียวกันถึงแม้กาลเวลาจะล่วงเลยมายาวนานนับพันปี การฝึกโยคะก็ไม่เคยเสื่อมลงไปเลยแม้แต่น้อย แต่กลับได้รับการพัฒนาและปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เข้ากับการดำเนินชีวิตของผู้คนในยุคปัจจุบัน เมื่อคนเข้าใจง่ายขึ้นและวิธีการฝึกที่ไม่ยากจนเกินไป ทำให้ได้ความนิยมกัน
อย่างแพร่หลาย จึงเป็นที่มาของคำว่า “โยคะเพื่อสุขภาพ” นั่นเป็นเพราะว่าผลลัพธ์ที่ได้จากการฝึกโยคะเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนพอใจ ทำให้สุขภาพดีขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นโรคภัยต่างๆ กอาจจะบรรเทาหรือถึงขั้นหายขาดไปเลยก็มี

องค์ประกอบของโยคะ

1. ฝึกการหายใจและลมปราณ
การฝึกบังคับลมหายใจเข้าออกและลมปราณจะมีส่วนช่วยเพิ่มพลังงาพายในร่างกาย จิตใจปลอดโปร่ง สงบและเยือกเย็น ความคิดอ่านมีประสิทธิภาพมากขึ้น

2. ฝึกทำสมาธิ
ความเครียดจะเป็นตัวทำลายสมรรถภาพในด้านต่างๆ การฝึกสมาธิจะช่วยให้ผ่อนคลาย สามารถขจัดความเครียดอย่างได้ผล

3. ฝึกบริหารร่างกาย
เป็นตัวตนของโยคะที่ชัดเจนที่สุด กาพริหารท่งกายด้วยความนิ่มนวล จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่ให้กับส่วนต่างๆ ของร่างกายในส่วนของกล้ามเนื้อ เส้นเลือด และเส้นประสาท ทำให้ระบบในร่างกายโดย
รวมมีการผ่อนคลาย

เวลาที่เหมาะสำหรับการฝึกโยคะ คือ เวลาเช้า การฝึกโยคะแบบง่ายๆช่วยบริหารร่างกาย และสร้างพลังชีวิต การเลือกท่าทางที่นุ่มนวลจะช่วยทำให้เกิดความสมดุลของสรีระและกล้ามเนื้อ ระยะเวลาในการฝึกโยคะควรจะอยู่ที่ 20 นาทีต่อครั้งเป็นอย่างน้อย และฝึกสัปดาห์ละ 2 ครั้งเพื่อให้เห็นผล


การเตรียมตัวฝึกโยคะแผนใหม่ ควรคำนึงถึงมีดังนี้
* เลือกสถานที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
* อาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด (ยกเว้นการฝึกในท่าวอร์มอัปรับอรุณ เมื่อตื่นขึ้นมาสามารถฝึกบนที่นอนก่อนลุกจากที่นอนได้เลย)
* ในระหว่างฝึก คะจะต้องมีสมาธิและ จิตใจสงบเพื่อให้การขับลมปราณเป็นไปได้ด้วยดี
* ก่อนฝึกโยคะไม่ควรกินอาหารหรือหากจะกินก็ควรกินก่อนฝึกไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง
* ผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับความดันโลหิต

No comments:

Post a Comment