24 December, 2010

มารู้จักกับสบู่กันดีกว่า

สบู่

คำว่าสบู่ คนทั่วไปหมายถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาด สบู่เกิดขึ้นนานกว่า 2000 ปีก่อนคริสตศักราช แต่ไม่ใช้สบู่ที่มีรูปร่างเหมือนเช่นปัจจุบัน การทำสบู่เป็นอุตสาหกรรมเก่าแก่ที่สุดของโลก ประเภทหนึ่งโรงงานผลิตสบู่เกิดขึ้นก่อนในยุโรป การทำสบู่เป็นทั้งวิทยาศาสตร์และศิลปะ และมีการพัฒนาก้าวหน้าขึ้นมาก จปัจจุบันมีรูปแบบและสภาพแตกต่างไปจากเดิมที่เป็นเพียงก้อนสบู่ เมื่อพูดถึงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว คนเรามักนึกถึง สบู่มารู้จักสบู่กันสักนิดหนึ่ง

การแบ่งประเภทของสบู่
1.สบู่ก้อนขุ่น
สบู่ประเภทนี้มีลักษณะเป็นก้อนและมีลักษณะขุ่น
ภาษาอังกฤษจึงเรียกกันว่า opaque soap
สบู่ประเภทนี้ก็เป็นสบู่ที่เรารู้จักกันดีเเละใช้กันเป็นประจำสบู่ก้อนขุ่นทั่วไปมีสารเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นส่วนผสมอยู่ไม่มากนักแม้ว่าสบู่กอนขุ่นทำความสะอาดผิวได้ดี
แต่อาจทำลายน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติและไขมันที่จำเป็นได้
คนที่มีสภาพผิดธรรมดาหรือผิวมันสามารถผลิตน้ำมันหล่อเลี้ยงมาทดแทนได้
เมื่อใช้สบู่ประเภทนี้จึงไม่เกิดผิวแห้งตึง แต่คนที่มีผิวแห้ง การสร้างน้ำมันหล่อเลี้ยงทดแทนทำได้ช้าเเละอาจช้ากว่าการทำความสะอาดผิวครั้งต่อไปการใช้สบู่ประเภทนี้จึงอาจทำให้ผิวแห้งตึง และระคายเคีองได้

2.สบู่ก้อนใส
สบู่ประเภทนี้ยังคงมีลักษณะเป็นก้อน แต่ต่างจากสบู่ก้อนขุ่นตรงที่มีความใส
ภาษาอังกฤษ เรียกว่า Tranparent soap
สบู่ก้อนใส มีปริมาณของสารเพิ่มความชุ่มชื้นบำรุงผิวมากกว่าสบู่ก้อนขุ่น
การใช้สบู่ประเภทนี้จึงช่วยปกป้องผิวจากความแห้งกร้านได้มากกว่าการใช้สบู่ก้อนขุ่น
แต่ข้อเสีย คือ มีปริมาณฟองน้อยกว่า แถมละลายหมดเร็วกว่าสบู่ก้อนขุ่นด้วย
คุณที่คิดว่าสบู่ที่ดีต้องมีฟองมาก คงไม่ค่อยชอบใช้สบู่ใสนัก ทั้ง ๆ ที่สบู่ใสใช้ดีกว่า

3.สบู่เหลว
อธิบายง่าย ๆ สบู่เหลว เป็น สบู่ที่เป็นของเหลว ไม่เห็นลักษณะเป็นก้อน
ภาษาอังกฤษ เรียกว่า Liquid soap บางคนก็ชอบใช้ทำความสะอาดร่างกายด้วย
สบู่เหลวนี้ คือ ที่มาของแชมพูสระผมที่เราใช้กัน



การเลือกใช้สบู่
-เลือกใช้สบู่ที่มีฤทธิ์เป็นด่างอ่อน เพื่อช่วยรักษาสภาพผิวให้เป็นธรรมชาติของกรดอ่อนไว้
-อย่าใช้สบู่ฤทธิ์แรงที่ทำความสะอาดสิ่งสกปรกให้หลุดออกมาใช้กับผิวกาย เพราะไม่เพียงสิ่งสกปรกจะหลุดออกเท่านั้น ผิวหนังอ่อนๆ ก็จะหลุดออกมาด้วย
-ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเพิ่มความชุ่มชื่น จะช่วยจะทำความสะอาดผิวพรรณให้เป็น ต้องรู้จักผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวด้วย

17 December, 2010

วิธีสระผม กับเคล็ดลับดีๆ

ปกติเราควรจะสระผม 2-3 วันต่อครั้ง ถ้าไม่สกปรกสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
แต่ถ้าเราชอบออกกำลังกาย หรือทำสวน ทำงานบ้าน ต้องเจอเหงี่อออกเต็มศีรษะ หรือไปงานเลี้ยงที่ผมต้องเจอควัน บุหรีทั้งคืน ควรสระผมหลังจากกิจกรรมสำหรับคนที่ชอบสระผมทุกวันหรือวันเว้นวันควรใช้แชมพู อ่อนๆ หรือใช้แชมพูของเด็กก็ได้ คนที่มีผมแห้งเสียง่ายก็เช่นกัน การเลือกใช้แชมพู ควรดูค่า PH ต่ำจะมีประโยชน์ต่อ เส้นผมมากที่สุด จากนั้นคอยใช้ครีมบำรุงเข้มข้นหมักผมเพียงสัปดาห์ละครั้ง ก็จะฟื้นฟูสภาพผมได้ดี

ความจริงแล้วแชมพูที่เราใช้กันอยู่นั้น ค่อนข้างจะมีความเข้มข้นมาก หากตกค้างอยู่ทุกครั้งหลังการสระก็จะ
ทำให้ผมเสียได้ง่ายๆ เคล็ดลับดีๆคือ ให้เจือจางแชมพู ด้วยการแบ่งใส่ขวดเปล่าอีกขวดหนึ่ง แล้วผสมน้ำเปล่าครึ่งต่อครึ่ง ก็จะได้แชมพูไว้ใช้ตลอดทั้งเดือน นี่ไม่ใช่เคล็ดประหยัด แต่เป็นเคล็ดดีๆ เพื่อการสระผมมิได้ประโยชน์ต่อสภาพผมอย่างแท้จริง และควรเทแชมพูใส่มือดีกว่าเทใส่ศีรษะโดยตรง

-เส้นผมมันไม่จำเป็นต้องใช้ครีมนวดบ่อยนัก
-ส่วนผมแห้งเสียก็ควรใช้ครีมนวดลูบแค่ช่วงปลายผม ไม่ใช่ละเลงจนชุ่มศีรษะ
-สวนเส้นผมธรรมดาก็ไม่จำเป็นต้องใช้ครีมนวดทุกๆ ครั้ง ในการสระผมเพราะจะทำให้หนังศีรษะเกิด
ปัญหาได้เช่นกัน

ถ้าอยากบำรุงเส้นผมให้นุ่มลึ่น ก็ใช้วิธีการหมักผมด้วยผลไม้ ตามวิธีธรรมชาติของสูตรต่างๆ ที่แนะนำตามหนังสือ หรือเวบไซต์จะดีกว่า

เคล็ดลับการถนอมเส้นผม
เราต้องไม่แปรงผมขณะผมเปียก เพราะเส้นผมเปียกจะอ่อนแอและขาดง่าย ควรจับผมและเป่าผมให้แห้งก่อนการแปรงผมไม่จำเป็นต้องเป่าไดร์ผมทุกๆ ครั้งหลังสระ ใช้ผ้าขนหนูเช็ดให้ผมหมาดๆ แล้วปล่อยให้ผมแจ้งตามธรรมชาติจะ ดีกว่า

การเลือกใช้แชมพูที่เหมาะกับสภาพเส้นผม ถ้าผมมัน ผมแห้ง หรือมีสภาพผมธรรมดาก็ควรเลือกใช้แชมพูตามสภาพของตน

การหวีผม
การแปรงผมโดยใช้แปรงนวดศีรษะด้วยเป็นวิธีที่ดี เพราะแปรงจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตทั้งศีรษะ เป็นการช่วยบำรุงเลี้ยงเส้นผมแต่อย่าแปรงแรงเกินไป และไม่ต้องแปรงถึง 100 ครั้ง ซึ่งจะทำให้ผมขาดร่วงง่ายด้วยช้ำ

ถ้าจะเป่าผมควรก้มศีรษะลงแล้วเป่าผมห่างๆ ให้แห้ง ควรใช้แปรงซี่ห่างหรือหวีชี่ใหญ่ๆ สักหน่อย
ถ้าจะใช้แกนม้วนผมไฟฟ้าที่ม้วนผมเป็นลอนคลื่นสวย จะต้องรอให้ผมแห้งก่อนเสมอ มิเช่นนั้นผมจะเสียเร็วมาก การทำสีผมควรเลือกสีอ่อนกว่าผมจริง เพราะจะช่วยให้หน้าสว่างขึ้น

ควรเล็มปลายผมทุกๆ 4-6 สัปดาห์เพื่อป้องกันผมแตกและตัดเล็มทุก 2 เดือน เพราะรักษาสภาพผม
หลังการว่ายน้ำควรสระผมทุกครั้ง ถ้าไปเล่นน้ำทะเลหรือออกไปพักผ่อน ตากกาศหลายวันต้องบำรุงด้วยการหมักผม เพื่อป้องกันผมแห้งเสียจากการโดนแดดลม การเลือกใช้ยางรัดผม ควรเลือกใช้ที่รัดผมโดยเฉพาะจะดีกว่าใช้หนังยางรัดผม เพราะเพราะหนังยางจะทำให้เส้นผมขาดหลุดร่วงง่าย

สำหรับการดัดหรือทำสีผมใหม่ ควรเว้นสัก 2-3 เดือนแล้วทำอีกครั้งจะดีกว่าการทำสีผมบ่อยๆเพื่อให้ผมได้พักตัวเสียบ้าง เทคนิคการดูแลผมง่ายๆเหล่านี้ เราสามารถนำไปใช้ได้ง่าย


ขอบคุณภาพจาก thaidbmarket.com

08 December, 2010

5.วิธีดูแลผิวให้สดใสไปนานๆ

ใบหน้าอ่อนวัย

การปล่อยปละละเลยให้ผิวชำรุดทรุดโทรมจนดูร่วงโรยก่อนวัยแม้เครื่องสำอางชั้นดีแค่ไหนก็ยากที่จะเรียกความสดใสกลับคืนมาได นอกเสียจะช่วยไม่ให้คุณมีริ้วรอยมากไปกว่านี้ผู้เฮ่ยวชาญด้านผิวพรรณส่วนใหญู่แนะนำว่าการดูแลผิว ต้องใส่ใจกันตั้งแต่วัยสาวๆ นี่แหล่ะ ยิ่งเริ่มเร็วเมื่อไหร่ ก็จะยิ่งยืดความเสื่อมของเซลล์ได้มากขึ้นลองมาดูเทคนิค 5.วิธีดูแลผิวให้สดใสไปนานๆ

1.ทาครีมกันแดต
ผู้รู้เขาบอกว่า 80 % ของการเสื่อมของผิวหนังเกิดจากแสงแดดรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดด เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดริ้วรอย เหี่ยวย่น เนื่องจากจะทำลายเส้นใยคอลลาเจน และอีลาสติคทำให้ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่นได้ แต่อยู่เมืองไทยจะเลี่ยงไม่ให้โดนแดดกันเลย ก็เห็นจะยาก จึงควรทาครีมปกป้องใบหน้าและลำคอเป็นประจำทุกวัน ครีมกันแดดที่ใช้ควรมีค่า SPF 15 ขึ้นไป ส่วนการขับรถในที่แดดจ้า โดยไม่สวมแว่นกันแดด ทำให้คุณต้องหยีตากันตลอดเวลาก็ทำให้รอยตีนกามาเยือนได้ง่ายๆ รวมทั้งการทำหน้านิ่วคิ้วยุ่งๆอยู่บ่อยๆก็เป็นที่มาของริ้วรอยทั้งสิ้น

2.ท่านอนทำให้เกิดริ้วรอย
ผู้เชียวชาญ ด้านผิวพรรณบอกว่า ในช่วง 6-8 ชั่วโมง ของการนอนในแต่ละวัน มีผลทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้ โดยเฉพาะคนที่ชอบนอนซุกหน้ากับหมอนจะทำให้ใบหน้าด้านที่ตะแคงเข้าหาหมอน เกิดริ้วรอยมากกกว่าอีกด้าน ยิ่งพวกที่ชอบเอามือก่ายหน้าผากก็ยิ่งทำให้เกิดริ้วรอยได้มากขึ้น ซึ่งอาจหลีกเลี่ยงได้โดยเปลี่ยนมานอนหงายแทนหรือเลือกใช้หมอนที่อ่อนนุ่ม และใช้ปลอกหมอน เนื้อผ้าลื่นๆ อย่างผ้าซาตินจะจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้

3.กินอาหารตี
อาหารที่ดีมีประโยชน์ และครบหมวดหมู่จะช่วยให้ผิวพรรณสดใสได้ โดยเฉพาะวิตามินเอและอี ซึ่งมีสารแอนตี้ออกตี้แดนท์ ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิว และอย่าลืมดื่มน้ำมากๆ วันละ 6-8 แก้ว ส่วนบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นตัวการสำคัญที่บ่อนทำลายผิวหนังให้เสื่อมก่อนวัย อันควร

4.อดนอน ริ้วรอยมาเยือน
การพักผ่อนไม่เพียงพอ นอกจากทำให้สุขภาพทรุดโทรมแล้วใบหน้าก็ดูหมองคล้ำ อิดโรย และถ้าคุณอดนอนบ่อย ๆ จะทำให้ริ้วรอยมาเยือนก่อนวัย

5.รู้จักผ่อนคลาย
ความเครียดที่ไม่มีโอกาสผ่อนคลาย เปิดโอกาสให้สิวจู่โจมได้ง่ายๆถ้าไม่อยากให้เกิดสิว พลอยทำให้ใบหน้าไม่สดใส ควรหาวิธีผ่อนคลายความเครียด การทำจิตใจให้สงบโดยการทำสมาธิการฟังเพลงสบายๆ ชื่นชมกับธรรมชาติรอบตัวให้เวลากับสุนัขของคุณก็ช่วยคลายเครียดได้

เพียง 5 ขั้นตอนเท่านี้ คงไม่ยากเกินความสามารถของคุณใช่ไหม? เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ แล้วคุณจะได้เป็นผู้ครอบครองผิวสวยสมใจไปอีกนาน

thank image from designlessbetter.com