มาทำความรู้จักกับอุปกรณ์กาแฟดีท็อกซ์ กันก่อน
กาแฟสำหรับทำดีท็อกซ์เป็นกาแฟชนิดคั่วแล้วบด โดยไม่ผ่านกระบวนการปรุงแต่ง ยิ่งกาแฟบริสุทธิ์เท่าไร ก็จะยิ่งให้กาเฟอีน
บริสุทธิ์มากเท่านั้น ในกาแฟดีทอกซ์ ไม่ควรใช้กาแฟประเภทชงดื่ม ทั้งกาแฟสำเร็จรูปหรือกาแฟไร้กาเฟอีน (ดีแคฟ) เนื่องจาก
ผ่านการปรุงแต่งมาแล้ว ทำให้มีส่วนผสมอื่นเจือปน เช่น เนย ผงกาแฟบริสุทธิ์ที่นิยมใช้มีดังนี้

ภาพจากoknation.net/blog/joyjee/2009/11/12/entry-7
1.ชนิดผงชงละลายทันที
เป็นกาแฟบริสุทธิ์ผงละเอียดมากจึงไม่ต้องกรองกากออกหลังต้ม มีทั้งแบบบรรจุขวด กระป๋อง
หรือซอง สำหรับตวงเอง และแบบบรรจุซองขนาดเล็กในปริมาณสำหรับใช้หนึ่งซองต่อการทำดีท็อกซ์หนึ่งครั้ง พกพาสะดวก
2.ชนิดผงหยาบ
เป็นกาแฟบริสุทธิ์ผงค่อนข้างหยาบ ต้องใช้กระชอนกรองกากออกหลังต้มเสร็จแล้ว มีทั้งแบบบรรจุขวด
กระป๋อง หรือซอง สำหรับตวงเองเช่นกัน บางยี่ห้อบรรจุในถุงเยื่อกระดาษ์หนาดเล็ก (คล้ายถุงชา) เมื่อนำไปต้มพร้อมกับน้ำ
สะอาดจะช่วยแยกกากออกจากนำกาแฟที่จะนำมาใช้
วิธีการเก็บกาแฟดีทอกซ์ ควรเก็บกาแฟดีท็อกซ์แบบตวงเองในภาชนะที่มีฝา
ปิดมิดชิด เพื่อป้องกันกาแฟถูกความชื้นและจับตัวเป็นก้อน
ชุดทำดีทอกซ์
*ถุงดีท็อกซ์ พร้อมสายสวนทวารหนักหรือสายยาง ปลอกสวมปลายสายยาง และวาล์วปล่อยน้ำ ถุงดีทอกซ์จากพลาสติก
อย่างดี ลักษณะคล้ายถุงน้ำเกลือ พกพาสะดวก
*ขวดดีท็อกซ์ มักใช้ขวดพลาสติกขนาดบรรจุ 2 ลิตร แล้วเชื่อมสายยางเข้ากับฝาขวด สามารถเปลี่ยนขวดใหญ่ได้ตาม
ต้องการ ราคาถูกกว่าถุงดีท็อกซ์ แข็งแรง ทนทาน นอกจากนี้ยังมีเฉพาะชุดฝาขวดพร้อมสายยางจำหน่ายแยกต่างหาก แต่ขวด
ดีท็อกซ์ไม่คอยสะดวกต่อการพกพา
วิธีทำความสะอาด
ควรลวกถุงและขวดดีท็อกซ์ด้วยน้ำร้อนก่อนใช้ โดยเฉพาะบริเวณปลายสายยาง เมื่อใช้เสร็จ
แล้วให้ล้างด้วยน้ำสบู่ หลีกเลียงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์แรง เนื่องจากหากล้างออกไม่หมด สารเคมีอาจเจือปนกับ
น้ำกาแฟเข้าสู่ร่างกาย
หลังจากตากถุงหรือขวดดีห็อกซ์จนแห้งแล้ว อาจเช็ดด้วยผ้าสะอาดอีกครั้งก่อนเก็บ สวมปลอกที่ปลายสายยางให้เรียบร้อย
เพือป้องกันเชื้อโรค แล้วเก็บไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเท แต่ไม่สกปรกหรืออับชื้น ควรเปลี่ยนถุงดีท็อกซ์โหม่เมื่อถึงกลายเป็นสีเหลืองหรือเนื้อถุงเสื่อมสภาพจนกรอบแห้ง
*สารหล่อลื่น
ใช้สำหรับทาปลายสายยาง (อย่าลืมดึงปลอกออกก่อน)ประมาณ 2 นิ้ว เพื่อช่วยให้สอดเข้าทวารหนักง่ายขึ้น สารหล่อลื่นทีนิยมใช้มี 3 ชนิด ได้แก่
1.เจลหล่อลื่นชนิดละลายน้ำ เป็นเจลเนื้อใส ล้างออกง่ายด้วยน้ำสะอาด
2.เจลหลอลื่นชนิดไม่ละลายน้ำ หรือปิโตรเลียมเจล เนื้อเจลเหนียวเล็กน้อย ต้องล้าง
ออกด้วยน้ำสบู่ ราคาถูกกว่าเจลหล่อลื่นชนิดละลายน้ำ
3.น้ำสบู่ ทำได้ด้วยการเจือจางสบู่กับน้ำสะอาด
**ข้อควรระวัง
ควรล้างเจลหล่อลื่นบริเวณปลายสายยางให้สะอาด เนื่องจากอาจจะตกค้างจนเกิดการหมักหมมบริเวณช่องปล่อยน้ำ แล้วนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้
อุปกรณ์พร้อม ใจพร้อม คราวนี้ก็มาเริ่มทำดีท็อกซ์กันเลย
ที่มาข้อมูล หนังสือชีวจิต 16 พ.ค 2554