16 September, 2010

การออกกำลังกายเพื่อลดพุง

อ้วนลงพุง


การลดไขมันบริเวณหน้าท้องเป็นความต้องการของคนหลายๆ คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีไขมันสะสมอยู่ภายในร่างกายในปริมาณมากๆ หรือพูดอย่างง่ายก็คือ “อ้วนลงพุง” นั่นเอง เพราะในปัจจุบันนี้เหล่านักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษาค้นคว้า และพบว่า การที่คนเรามีพุง เนื่องจากมีไขมันสะสมในร่างกายปริมาณมากๆ หรือมีไขมันไปพอกพูนที่บริเวณหน้าท้อง ต้นขา สะโพก รวมไปถึงอวัยวะอื่นๆ ในปริมาณมากๆ เป็นสิ่งที่ไม่เกิดผลดีต่อสุขภาพเลยแม้แต่น้อย และยังพบอีกว่า


คนที่มีไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องมาก มีอัตราการเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ง่าย และอาจถึงขั้นเสียชีวิตก็ได้ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต เป็นอัมพาต โรคหลอดเลือดตีบตัน เป็นต้น รวมไปถึงคนที่เป็นโรคอ้วน หรือมีรูปร่างสมบูรณ์มากเกินไป มักจะรู้สึกว่าตัวเองกำลังเสียบุคลิกภาพ รู้สึกไม่มั่นใจตนเอง เมื่อคนรอบข้างมองมาที่ตนเอง และความรู้สึกนี้ก็จะเกาะกินใจท่านไปเรื่อยๆ ตราบเท่าที่ร่างกายของท่านยังมีไขมันสะสมอยู่ในปริมาณมาก ส่งผลให้เสียสุขภาพจิตได้อย่างมาก ดังนั้น เราจึงควรหันมาเริ่มลดไขมันบริเวณหน้าท้องและส่วนต่างๆ ของร่างกายกันอย่างจริงจังได้แล้ว

ผู้ชายกับผู้หญิงมีกล้ามเนื้อในร่างกายแตกต่างกัน ผู้ชายจะมีส่วนของกล้ามเนื้อมากกว่าผู้หญิง และภายในร่างกายของผู้หญิงก็จะมีไขมันสะสมมากกว่าผู้ชาย ดังนั้น การลดไขมันของผู้ชายจึงสามารถกระทำได้เร็วกว่าผู้หญิง

การออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักและเสริมสร้างกล้ามท้องด้วยการลุก-นั่ง (Sit-up) ท่านสามารถกระทำได้ทุกวันทุกเวลาที่มีโอกาส ซึ่งจะทำให้ท่านเป็นคนที่มีกล้ามท้องแข็งแรง และยังทำให้มีโอกาสปวดหลังบริเวณส่วนล่างน้อยลง เพราะคนที่ปวดหลังส่วนล่างจะมีอาการที่ทรมานมาก หรืออาจทำให้การดำเนินชีวิตในปัจจุบันเป็นปัญหาอุปสรรคมากมาย เนื่องจากกล้ามเนื้อหลังเป็นกล้ามเนื้อที่มีส่วนสำคัญในการเดิน วิ่ง หรือหลายๆ อิริยาบถ ดังนั้น หากท่านมีอาการปวดหลัง ท่านจะรู้สึกทำอะไรไม่สะดวก ซึ่งการเสริมสร้างกล้ามท้องให้แข็งแรงจะช่วยท่านได้เป็นอย่างดี

การออกกำลังกายเพื่อลดพุงหรือไขมันหน้าท้องสามารถกระทำได้ โดยการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องและใช้ระยะเวลานาน 30 นาทีขึ้นไป ร่วมกับการเสริมสร้างกล้ามเนื้อท้องให้แข็งแรง ผู้เขียนขอเป็นกำลังใจให้ท่านลดพุงหรือไขมันหน้าท้องให้สำเร็จตามที่ท่านต้องการ


ที่มา :http://www.spu.ac.th/announcement/articles/sit-up.pdf โดย นายมาโนช บุตรเมือง มหาวิทยาลัยศรีปทุม

No comments:

Post a Comment