02 July, 2009

สูตรล้างพิษ 1 วัน


สูตรล้างพิษ 1 วัน หรือการทำดีท็อกซ์ เป็นสูตรล้างพิษที่สามารถทำใช้ได้เองที่บ้านง่ายๆ คุณก็สามารถทำได้เอง ทดลองทำตามได้ เพื่อขจัดสารพิษที่ตกค้างสะสมมานานในร่างกายของคุณ เพื่อให้ได้สุขภาพที่ดีของคุณคืนกลับมา
หัวใจสำคัญในการล้างพิษใน 1 วัน คือ จะต้องกินอาหารที่มีแคลอรี่น้อยกว่า 800 กิโลแคลอรี่ เพื่อให้ระบบย่อยและตับได้พัก ตับจะขับสารพิษออกมาและ อาหารที่คุณจะทานในวันนั้นจะต้องไม่มีเนื้อสัตว์โดยเด็ดขาด


ขั้นตอนการปฏิบัติ


1. เลือกผลไม้ที่คุณชอบมา 1 อย่าง เช่น มะละกอ ฝรั่ง แคนตาลูป แอปเปิ้ลส้มโอ ชมพู่ มะม่วง ฯลฯ ยกเว้นอยู่ 2อย่างคือ ทุเรียนและสับปะรด เพราะทุเรียนมีแคลอรี สูงเกินไปและย่อยยาก ทานแล้วจะเป็นภาระกับระบบย่อย ส่วน สับปะรดนั้นมีกรดสูงมาก ถ้ากินทั้งวันท้องก็จะอืดได้
2. ทานแต่ผลไม้ชนิดเดียวตลอดทั้งวัน โดยอาจจะปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ เช่น ถ้า เลือกมะละกอก็อาจจะทานเป็นเนื้อมะละสุก หรือส้มตำ(มะละกอดิบ) ที่ใส่แต่มะละกอ กับน้ำปลามะนาวเท่านั้น ไม่ใส่เครื่องประกอบอย่างอื่นเด็ดขาด
3. พอมาถึงมื้อกลางวันก็ทานมะละกออีก อาจจะเป็นน้ำมะละกอปั่นใส่น้ำตาลน้อยๆ ที่สุด หรือน้ำมะละกอคั้นสดก็ได้
4. มื้อเย็นก็ต้องทานมะละกออีกครั้งเป็นมื้อสุดท้ายของวัน โดยอาจจะบีบมะนาว ลงไปด้วยนิดหน่อยเพื่อเพิ่มรสชาติให้ไม่เลี่ยนเกินไป
5. วันรุ่งขึ้นก่อนที่จะเริ่มมื้อเช้า คุณจะต้องดื่มน้ำมะนาวผสมน้ำอุ่นประมาณ 2 ขวดก่อน เพราะเมื่อเราล้างสารพิษ ตับจะขับสารพิษให้มารวมกันอยู่ที่ลำไส้เล็ก ส่วนต้น จึงต้องดื่มน้ำอุ่นผสมมะนาวเข้าไปกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัว เพื่อให้สารพิษ ถูกขับออกมากับอุจจาระ หลังจากที่ดื่มน้ำอุ่นแล้วคุณจะรู้สึกปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำ ทันที แต่ถ้าไม่มีการดื่มน้ำกระตุ้นและไปทานอาหารเช้า สารพิษก็จะถูกดูดกลับเข้า ไปในกระแสเลือดเหมือนเดิม ทำให้การอดอาหารล้างพิษไม่ได้ผล

อุปกรณ์ที่ต้องใช้

1.ขวดใส่น้ำขนาด 1 ลิตร 2 ขวด

2.มะนาว 4 ลูก

3.เกลือป่น 2ช้อนชา (ห้ามใช้เกลือไอโอดีน)

วิธีทำ

ใส่น้ำให้เต็มขวดจากนั้นบีบมะนาวใส่ลงไปขวดละ 2 ลูก เกลือ 1 ช้อนชา เขย่า ให้เข้ากัน
มะนาวจะไปกระตุ้นให้ลำไส้ทำงาน ส่วนเกลือก็จะช่วยอุ้มน้ำไว้ไม่ให้ถูกร่างกายดูด ซึมไปหมด น้ำจะได้เหลือไปจนถึงทวารหนักเพื่อขับอุจจาระหลังจากดื่มน้ำมะนาวประมาณ 10-20 นาที คุณจะรู้สึกปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำ นั่น คือาการปกติ หลังจากถ่ายท้องเรียบร้อยแล้วก็เริ่มทานอาหารได้
ควรทำเป็นประจำ 2 อาทิตย์/หนึ่งครั้ง เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด

No comments:

Post a Comment