07 March, 2011

การลอกหน้า

ทั้งสาวน้อยสวยใหญู่สมัยนี้ นิยมเพิ่มความสวยด้วยการลอกหน้ากันมากขึ้น ซึ่งการลอกหน้านน เป็นวิธีที่ทำให้ผิวหน้าเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยไม่ทำลายผิวหนัง ช่วยทำให้หน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น การลอกหน้าเป็นวิธีการที่มีมานานกว่า 100 ปีแล้วด้วย

โดยธรรมชาติแล้วผิวของคนเราส่วนล่างสุดคือชั้นหนังกำพร้าจะมีการแบ่งตัวเพื่อการเจริญเติบโต และเคลื่อนตัวขึ้นมาชั้นบนจนออกมาเป็นคราบไคล แล้วหลุดลอกออกไป แต่การลอกหน้าจะเป็นกระบวน
การที่เร่งการเจริญเติบโตและการแบ่งเซลล์ทำให้เซลล์ใหม่ๆ เกิดเร็วขื้นสรุปก็คือ การลอกหน้าเป็นการกระตุ้นให้เซลล์เร่งการผลิตคราบไคล และเป็นการทำให้ผิวหนังหนาขึ้น (ไม่ใชบางลง) สีของ
ผิวจางลง ทำให้จางได้ และลดการอุดตันของรูขุมขนช่วยให้เกิดสิวได้น้อยลง

การลอกหน้ายังเป็นการทำลายเซลล์ ซึ่งถูกทำลายจากสาเหตุอื่นๆ เช่น แผลเป็นจากสิวช่วยลบรอย ขรุขระบนใบหน้า ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการอักเสบในชั้นลึกของผีวหนัง ก่อให้เกิดการสร้างใยคอลลาเจนและใยยืดหยุ่นขึ้นมาใหม่ ทำให้มีการสร้างน้ำและสารบางอย่าง ช่วยใหผิวหนังมีความชุ่มชื้น ทำให้ดูหนุ่มสาวขึ้น เป็นอีกวิธีหนึ่งทีช่วยชะลอความชราของผิวพรรณได้ส่วนประเภทของการลอกหน้า สามารถแบ่งออกได้ตามระดับความลึกของการลอก ได้แก่ การลอกชนิดตื้น การลอกชนิดลึกปานกลาง และ
การลอกชนิดที่ลึก
การลอกหน้าแต่ละชนิดจะมีวิธีการที่แตกต่างกัน เหมาะกับสภาพผิดที่แตกต่างกัน และมีผลดีผลเสียแตกต่างกันไปวิธีการลอกหน้า เพื่อให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้นนั้น แบ่งเป็น 3 ระดับด้วย กัน คือ

1.การลอกหน้าชนิดตื้น
วิธีนี้จะใช้น้ำยาสำหรับลอกหน้าที่มีประสิทธิภาพลงไปถึงชั้นหนังกำพร้า สารที่ใช้กันมากคือ กลุ่มสารAHA เช่น กรดไลโคลิก โดยใช้ความเข้มข้นในการลอกประมาณ 30-70 % ถ้ายิ่งทาทิ้งไว้นานน้ำยาก็จะยิ่งลงลึก วิธีนี้นิยมใช้กันในบรรดาร้านเสริมสวยทั่วไป แต่ปัญหาของการใช้กรดไลโคลิก คือ ถ้ามีผิวหน้าที่หนา น้ำยา
นี้จะไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ แต่ถ้าผิวบางละเอียดเกินไป ก็อาจเกิดภาวะหน้าเปียก มีน้ำเหลืองไหล หรืออาจทำให้หน้าบวมได้ และไม่ได้ช่วยแก้ไขผิวหนังที่เสียจากการเป็นสิวได้

2.การลอกหน้าชนิดลึกปานกลาง
การลอกหน้าชนิดนี้ลงไปถึงชั้นหนังแท้ด้านบนลึกและดีกว่า สาร AHA โดยแพทย์
ผิวหนังเท่านั้น ที่จะใช้ยาตัวนี้ได้การลอกหน้าชนิดนี้จะช่วยลดรอยขรุขระจากการเป็นส่วนรวมทั้ง
รอยย่นต่างๆ ก็น้อยลง แต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เดือนละ 1 ครั้งติดต่อกันประมาณ 1 ปี
อย่างไรก็ ตาม ก็มีข้อยกเว้น ที่ใช้ไม่ผลกับคนที่มีผิวคล้ำ ซึ่งในบางรายเมื่อทำแล้วหน้าอาจจะดำคล้ำขึ้นกว่าเดิมคนที่รับประทานยารักษาสิวจำพวกกรดวิตามิน เอจะลอกไม่ได้เพราะจะรู้สกแสบหน้ามาก หรือคนที
เป็นฝ้าแล้วเคยได้รับยาชนิดแรง ๆ คนที่มีผิวละเอียดอ่อนเกินไป รวมทั้งผิววัยรุ่นก็ไม่เหมาะที่จะทำกา
ลอกหน้าด้วยวิธีนี้

3.การลอกหน้าชนิดลึก
การลอกหน้าชนิดนี้จเหมาะสำหรับคนผิวขาวเท่านั้น คนทั่วไปไม่เหมาะที่จะทำ เพราะอาจทำให้ผิวหน้าดำได้สารที่ใช้คือ ฟีนอล การทำต้องมีวิสัญญีเเพทย์ 1 คน เพราะสารนี้อาจก่อให้เกิตอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ จึงจำเป็นต้องมีเครื่องตรวจ หัวใจชนิดดูตลอดเวลา หลังทำแล้วต้องปิดหน้า 7 วัน และอยู่ใน
ห้อง มืดวิธีนี้จัดทำให้หน้ามี น้ำเหลืองไหลต้องเปลี่ยนผ้ากอซสะอาดทุกวันและต้องใช้ยากันเชื้อไวรัสลง
จะลอกหน้าด้วยวิธีใดก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผิวหนังของคุณ เพื่อความปลอดภัยต่อผิวหน้าของคุณ

No comments:

Post a Comment